ทำไมต้องตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ
ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บทุกวันนี้
หลายโรคไม่สามารรถวินิจฉัยได้ทันที แต่จำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น
ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะและนำผลที่ได้มาประกอบการวินิจฉัยโรคของแพทย์
เพื่อวางแผนการรักษา แต่ท่านทราบหรือไม่ การตรวจด้วยวิธีนี้เขาต้องเตรียมตัวกันอย่างไร
และประโยชน์ที่ได้มีอะไรบ้าง
การตรวจเลือด
ปุจฉา : ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนตรวจ
วิสัจฉนา : ควรพักผ่อนเพียงพอ
หลีกเลี่ยง การออกกำลังกายที่หักโหมจนเกินไป งดดื่มสุรา งดยาบางชนิด
(ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นในการตรวจหาปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือด
ควรงดอาหารนาน 8-12 ชั่วโมง ก่อนเจาะเลือด (ดื่มน้ำเปล่าได้)
ปุจฉา :
ใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะทราบผล
วิสัจฉนา : ประมาณ 1 ชั่วโมง
สำหรับการตรวจเลือดตามปกติ เช่น การตรวจเม็ดเลือด การตรวจสมรรถภาพของตับและไต ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
แต่สำหรับตรวจพิเศษบางอย่างนั้นอาจต้องใช้เวลานาน เป็นวันจึงจะทราบผล เช่น
การเพาะเชื้อจากเลือด เป็นต้น
ปุจฉา : เลือดที่ถูกเจาะไป
ใช้ตรวจอะไรบ้าง
วิสัจฉนา : - ตรวจนับเม็ดเลือด เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคเลือด
เช่น ธาลัสซีเมีย ลิวคีเมีย
- ตรวจสมรรถภาพของตับ ช่วยในการสาเหตุของภาวะดีซ่าน
ข่วยวินิจฉัยโรคตับ เช่น โรคตับอักเสบ
- ตรวจสมรรถภาพของไต ช่วยในการวินิจฉัยโรคของไต
เช่น ภาวะไตวาย
- ตรวจระดับไขมันในเลือด ช่วยในการวินิจฉัยภาวะไขมันในเลือดสูง
ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในการวินิจฉัยและติดตามผลารรักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ตรวจหาปริมาณฮอร์โมน ช่วยวินิจฉัยโรคต่อมไร้ท่อ
เช่น โรคธัยรอยดเป็นพิษ
- ตรวจหาโรคติดเชื้อทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา
และเชื้อไวรัส
ตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคออโตอิมบูน
เช่น โรคเอสแอลอี โรคข้ออักเสบรูห์มาตอยด์
นอกจากนี้ยังมีการตรวจพิเศษอีกหลายชนิด
ซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาส่งตรวจตามความเหมาะสม
ปุจฉา :
มีการตรวจอะไรที่ช่วยติดตามผลการรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้ดีกว่า
การตรวจน้ำตาลในเลือดเพียงอย่างเดียว
วิสัจฉนา : การตรวจระดับ Hemoglobin
A1C จะสามารถช่วยติดตามผลการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดีกว่าการตรวจน้ำตาลในเลือดเพียงอย่างเดียว
เนื่องจากสามารถบอกได้ถึงระดับน้ำตาลของผู้ป่วยภายในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ปุจฉา : โรคหัวใจ วินิจฉัยด้วยการตรวจเลือดได้หรือไม่
วิสัจฉนา :
โรคหัวใจวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือดได้ เพราะจากประวัติการเจ็บหน้าอก การตรวจร่ายกาย
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ร่วมกับการตรวจเลือดจะช่วยในการวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการตรวจเลือดในปัจจุบันมีการพันาขึ้นมากจนสามารถใช้วินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
และยังช่วยแยกโรคที่มีอาการใกล้เคียงกัน ทำให้แพทย์สามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
ปุจฉา :
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนส่งตรวจเก็บปัสสาวะอย่างไร
วิสัจฉนา :
เก็บปัสสาวะที่ถ่ายหลังตื่นนอนตอนเช้า เพราะจะมีความเข้มข้น
สามารถพบตะกอนของสารต่างๆ ได้ดี แต่มีเคล็ดลับเล็กๆ
คือควรถ่ายปัสสาวะทิ้งไปเล็กน้อยก่อนแล้วค่อยถ่ายใส่ภาชนะ
เพื่อลดการปนเปื้อนของเซลล์ต่างๆ บริเวณส่วนต้นของท่อปัสสาวะ
หมายเหตุ : สตรีที่มีประจำเดือน
ไม่ควรตรวจปัสสาวะ การตรวจทางห้องปฏิบัติการก่อนตรวจ
ผู้ป่วยควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อความแม่นยำของผลที่ได้
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการวินิจฉัย เพื่อวางแผนการรรักษาต่อไป
ที่มา: รศ.ดร.พญ.นิศารัตน์
โอภาสเถียรติกุล
พญ.นิลรัตน์ วรรณศิลป
ภาควิชาพยาธิวิทยาคลินิก
Faculty of Medicine Siriraj
Hospital
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น