"นอนกรน" อันตรายถึงชีวิต
การนอนกรนเป็นเป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เเล้วจะพบในกลุ่มผู้ชายมากถึง 20-30% ส่วนผู้หญิงพบได้ 10-15% โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัยทำงาน คนที่อาการรุนแรงมากพบได้สูงถึง 5% สาเหตุนั้นมาจากการที่ผู้ชายมีหลอดลมเเคบกว่าผู้หญิงนั่นเอง หลายคนเข้าใจผิดว่า "นอนกรน" ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมาย อย่างมากก็เเค่ทำให้คนที่นอนข้างๆ รำคาญก็เท่านั้น
ขอเตือนเลยว่าการนอนกรนเป็นปัญหาที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะมันเป็นสัญญาณเเละเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ทั้งโรคหัวใจเเละหลอดเลือด ความดันโรคหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต รวมไปถึงโรคความจำเสื่อม เพราะในบางคน อาการนอนกรนสื่อถึงการขาดอากาศหายใจในช่วงสั้นๆ ที่อาจทำให้หลับยาวแบบไม่ตื่นฟื้นไม่มีทีเดียว ดังนั้น จึงควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ
* สาเหตุของการนอนกรน
1. เกิดจากพันธุกรรม
2. อายุที่มากขึ้น ทำให้หลอดลมแคบลงและกล้ามเนื้อในการเปล่ง
เสียงก็ลดลง
3. การสูบบุหรี่เเละดื่มเเอลกอฮอล์
4. การรับประทานยาบางชนิด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว
5. ท่านอน การนอนหงายทำให้กล้ามเนื้อในหลอดลมขัดขวางทางเดินอากาศในหลอดลม
6. น้ำหนักตัวที่มากเกิน
* วิธีเเก้การนอนกรน
1. นอนตะเเคง อย่างที่บอกไปว่าท่านอนก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนกรน ถ้าคุณนอนหงายและมีการกรนเบาๆ การนอนตะแคงจะเป็นการช่วยรักษาอาการนอนกรนไปในตัว
2. นอนหมอนสูงพอประมาณ พยายามยกศีรษะให้สูงเวลานอน จะช่วยให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก เเนะนำให้ใช้หมอนที่ออกเเบบเป็นพิเศษที่ทำให้กล้ามเนื้อคอไม่ย่น
3. ลดน้ำหนัก วิธีนี้สามารถช่วยได้ในผู้ที่มีอาการกรนไม่มาก อย่างที่เรารู้กันคือคนที่อ้วนมักจะนอนกรน การลดน้ำหนักจะช่วยลดเนื้อเยื่อบริเวณด้านหลังของลำคอ ทำให้หายใจได้คล่องขึ้น
4. งดการดื่มเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์และยาบางอย่าง เช่น ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูงและน้ำนมถั่วเหลืองทำให้เกิดเมือกหรือมีเสมหะในลำคอซึ่งอาจทำให้
เกิดการนอนกรนได้เช่นกัน
5. น้ำมันมะกอก ใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหารหรือกินน้ำมันมะกอก 4-5 หยดก่อนนอน ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ก็ถือเป็นการเเก้ปัญหาการกรนในระยะยาวได้เช่นเดียวกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูล deedaily, 247freemag
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น